หัวเว่ยนำห้าเทคโนโลยีก้าวล้ำข้อจำกัด จับมือพันธมิตรสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงการสื่อสารเต็มรูปแบบ
ลอนดอน สหราชอาณาจักร/ 26 กุมภาพันธ์ 2561 – หัวเว่ยจัดแถลงข่าวนำร่องงาน MWC 2018 ต่อสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมที่มหานครลอนดอน เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมจับมือกันก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ในด้านความสามารถ การเชื่อมโยง ธุรกิจ ประสบการณ์ และการร่วมมือ เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่มีการเชื่อมโยงสื่อสารเต็มรูปแบบ
การปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่มีเครือข่ายไอซีทีเป็นรากฐานหลักและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นตัวช่วย (Enabler) จะนำพาเราไปสู่โลกแห่งความอัจฉริยะ ที่ๆ ทุกสิ่งสามารถที่จะรับส่งสัญญาณ เชื่อมโยงกัน และมีความเป็นอัจฉริยะ ทั้งหมดนี้จะสร้างตลาด Digital Transformation ที่มีมูลค่าสูงถึง 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ วิสัยทัศน์อุตสาหกรรมระดับโลกของหัวเว่ย (Global Industry Vision – GIV) แสดงให้เห็นว่า
- ในราวปี 2568 จำนวนสมาร์ทดีไวซ์จะมีมากถึง 40,000 ล้านเครื่อง ร้อยละ 90 ของผู้ใช้สมาร์ทดีไวซ์จะมีผู้ช่วยอัจฉริยะส่วนบุคคล 1 ชิ้น และครัวเรือนมากมายจะมีหุ่นยนต์ 1 ตัว คนจะมีศักยภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ สามารถที่จะรับส่งสัญญาณ และการสื่อสารไปมาระหว่างมนุษย์และเครื่องยนต์ รวมถึงบริการข้อมูลเชิงรุกจะกลายเป็นเรื่องจริง
- ในระดับสังคมและธุรกิจ จะเกิดการเชื่อมโยงถึง 100,000 ล้านจุดทั่วโลก ในการขับเคลื่อนระบบดิจิทัลในด้านสาธารณูปโภค คมนาคม การผลิต การดูแลสุขภาพ การเกษตร การเงิน และอื่นๆ และในราวปี 2568 การใช้งานในระดับองค์กรร้อยละ 85 จะอยู่บนระบบคลาวด์ และร้อยละ 86 ของบริษัททั่วโลกจะใช้เทคโนโลยี AI
- ในปี 2568 ทั่วโลกจะมีข้อมูลมากถึง 180 เซตตะไบต์ในแต่ละปี สูงกว่าโลกในปัจจุบันถึง 20 เท่า ซึ่งดาต้าใหม่นี้จะกลายเป็น “บ่อน้ำมันด้านดาต้า” ที่เป็นเสมือนแหล่งข้อมูลอัจฉริยะอันทรงคุณค่าที่ใช้ไม่มีวันหมด
นับจากนี้ไป หัวเว่ยมีความตั้งใจที่จะนำดิจิทัลไปสู่คนทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่มีการเชื่อมโยงสื่อสารเต็มรูปแบบ มร. ไรอัน ติง กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ย กล่าวว่า “หัวเว่ยจะเน้นในด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคไอซีที และสมาร์ทดีไวซ์ เพื่อสร้างที่ดิน “ผืนงาม” สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ สารสนเทศ และออโตเมชั่น บนที่ดินผืนนี้พันธมิตรทั้งหลาย สามารถที่จะปลูกคอนเทนท์ แอพพลิเคชั่น และคลาวด์ให้เจริญงอกงามได้”
มร. ติง ยังกล่าวเสริมว่า “ก่อนที่จะเข้าสู่โลกอัจฉริยะ เรายังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกหลายอย่าง และเพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน เราต้องก้าวให้พ้นข้อจำกัดที่มีอยู่ ทั้งภายในและภายนอก” เขาได้เรียกร้องให้ทุกอุตสาหกรรมก้าวข้ามข้อจำกัดทั้งในด้านความสามารถ การเชื่อมโยง ธุรกิจ ประสบการณ์ และการร่วมมือกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน
ไรอัน ติง กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ย ระหว่างกล่าวปาฐกถา
- Beyond today’s capabilities, from digital to intelligent: ในฐานะที่เป็นเทคโนโลยีสำหรับการใช้งานทั่วไป ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นหลายอย่างของหัวเว่ยได้มีการผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าไว้ด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายได้เป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นAll-Cloud Intelligent Network ของหัวเว่ยสามารถที่จะออกบิลได้หลายล้านใบในเวลาไม่กี่นาที หรือช่วยผู้ใช้ค้นหารูปหลายพันล้านใบได้ในชั่วเวลาไม่กี่วินาที
- Beyond today’s connections, creating unlimited potential: ด้วยเทคโนโลยี 5G เครือข่ายของผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งผู้คน สิ่งของ และอุตสาหกรรมต่างๆ เครือข่ายทางกายภาพหนึ่งเครือข่ายจะสามารถรองรับการใช้งานได้นับล้านหน่วย ในปี 2561 หัวเว่ยจะใช้งบประมาณสำหรับลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเครือข่าย 5G ราว 5 พันล้านหยวน พร้อมทั้งเปิดตัวอุปกรณ์ 5G เชิงพาณิชย์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายการเข้าถึงแบบไร้สาย เครือข่าย Bearer เครือข่ายหลักและอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ หัวเว่ยจะผลักดันการใช้งานเครือข่าย NB-IoT เชิงพาณิชย์ออกไปในวงกว้างให้ครอบคลุมทั่วโลกอีกด้วย รวมถึงเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมต่อ NB-IoT ให้มากกว่า 100 ล้านโหนด
- Beyond today’s business, unlocking new growth: เนื่องจากความสำเร็จทางธุรกิจถือเป็นเป้าหมายสูงสุดสำหรับบริษัท ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจึงต้องก้าวให้ทันกับนวัตกรรมทางธุรกิจที่ขยายตัวอยู่เสมอด้วยการใช้งานเครือข่ายที่มีอยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคู่กับการปรับใช้แนวทางสำหรับอนาคตต่อไปนี้
Ø สำหรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะสามารถคิดค้นโมเดลทางธุรกิจโดยอาศัยอีโคซิสเต็ม เพื่อปูทางไปสู่การเพิ่มศักยภาพด้านการเติบโตและขับเคลื่อนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ สมาร์ทอินดัสทรี่ และสมาร์ทโฮมได้อย่างรวดเร็ว ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถใช้วิดีโอมาเป็นฟันเฟืองตัวใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ในลักษณะของบริการพื้นฐานรูปแบบใหม่ ประสบการณ์การใช้งานวิดีโอที่ดีขึ้นยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างเครือข่ายอีกด้วย ในปี 2560 ผู้ให้บริการเครือข่ายกว่า 100 รายทั่วโลกยังได้นำวิดีโอมาเป็นบริการพื้นฐานอีกด้วย และคาดว่าในปี 2561 จะมีผู้ให้บริการเครือข่ายที่นำเสนอบริการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 150 ราย
Ø สำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม หัวเว่ยได้ช่วยเหลือผู้ให้บริการโทรคมนาคมสร้างสรรค์บริการเชิงลึกและยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ โดยโซลูชั่นเว็บไซต์แบบจำลองสภาพการณ์ (scenario-based) ของหัวเว่ย ช่วยให้ทุกคนที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสามารถเชื่อมโยงสื่อสารถึงกันได้ รวมทั้งโซลูชั่นโฮมบรอดแบนด์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพของหัวเว่ยยังมีบริการ Wi-Fi ใหม่ที่มีความเร็ว 300 Mbps สำหรับใช้งานในครัวเรือน และยังมีโซลูชั่นที่ผสานการทำงานร่วมกันบนเครือข่ายคลาวด์แบบครบวงจรที่สนับสนุนการบูรณาการทรัพยากรและบริการในเชิงลึกระหว่างคู่สายโทรศัพท์สำหรับองค์กรและบริการคลาวด์อีกด้วย
- Beyond today’s experience, hitting the ROADS: โซลูชั่นระบบจัดการด้านดิจิทัลของหัวเว่ยช่วยขับเคลื่อนบริการข้อมูลออนไลน์ทั้งระบบ ระบบออโตเมชั่นด้านการจัดการ รวมถึงช่วยในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ทั้งยังช่วยผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถส่งต่อประสบการณ์การใช้งานต่างๆ ที่มีคุณสมบัติของ Real-time, On-demand, All-online, DIY และ Social (ROADS) ภายใต้กระบวนการ O&M ภายในองค์กร ส่วนภายนอกองค์กรนั้น โซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยผู้ให้บริการโทรคมนาคมสร้างระบบประกันประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าแบบ 360 องศาในทุกช่องทาง ทุกขั้นตอน และตลอดวงจรการใช้งาน
- Beyond today’s partnerships, building a richer ecosystem: หัวเว่ยทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างระบบอีโคซิสเต็มแบบ Multilayer ที่เปิดกว้างและส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จร่วมกันและพลิกโฉมอนาคตของอุตสาหกรรมไปด้วยกัน ความร่วมมือเหล่านี้เน้นไปที่การบ่มเพาะโซลูชั่นทางธุรกิจ การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในชุมชนโอเพ่นซอร์สและการเป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรม รวมถึงการสร้างOpenLabs
ในงาน Mobile World Congress 2018 ที่กำลังจะเกิดขึ้น หัวเว่ยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 20 ชนิด พร้อมนำเสนอผลจากความร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 300 ราย มีการจัดเสวนา 5 เวที รวมถึงเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ เพื่อแบ่งปันแนวทางปฏิบัติและแลกเปลี่ยนมุมมองภายในวงการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำประสบการณ์ด้าน ROADS ไปใช้ในโลกที่อัจฉริยะและเชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ
งาน Mobile World Congress 2018 จะจัดขึ้นที่เมืองบาเซโลนา ประเทศสเปน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2561 โดยภายในงาน หัวเว่ยจะกล่าวปาฐกถา จัดเสวนาและร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ธีม “ROADS to a Better Future” หัวเว่ยมุ่งหวังที่จะได้อภิปรายถึงแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกับผู้เล่นรายอื่นๆ และสร้างอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน นอกจากนี้ ในงาน MWC หัวเว่ยยังจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นล่าสุด พร้อมสาธิตการจำลองสภาพแวดล้อมต่างๆ อีกมากมาย
นิทรรศการของหัวเว่ยตั้งอยู่ที่บูธ 1J50 Fira Gran Via ฮอลล์ 1, บูธ 3130 ฮอลล์ 3 และโซน Innovation City Exhibition ฮอลล์ 4 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.huawei.com/mwc2018
