Amazfit แบรนด์สมาร์ทวอทช์ชั้นนำของอุปกรณ์สวมใส่ในเครือ Zepp (NYSE ZEPP) ที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีสุขภาพ กับการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่น GTS 4 ล่าสุด เหมาะกับคนที่ใส่ใจในสุขภาพ รักการออกกำลังกาย ชื่นชอบเทคโนโลยีล้ำสมัย
สำหรับ Amazfit GTS 4 รุ่นที่ได้รับมารีวิว เป็นเฉดสี Misty Whie มีหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 1.75″ HD AMOLED ส่วนสายรัดมีน้ำหนักเพียง 27 กรัม ด้านการดีไซน์มีความบางเบาเพียง 9.9 มิลลิเมตร ถือว่าโดดเด่นในสายคนรักแฟชั่น
ก่อนใช้งานเริ่มต้นให้จับคู่นาฬิกา โดยใช้โทรศัพท์สแกนคิวอาร์โค้ดที่มาพร้อมกับคู่มือ ที่อยู่ด้านขวาเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอปหรือค้นหาแอปใน Google Play Store หรือ Apple App Store จากนั้นดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชั่นล่าสุดของแอป และให้เปิดแอป ลงทะเบียนบัญชี และข้าสู่ระบบ จับคู่นาฬิกาตามที่แอปมีการแสดงข้อความพร้อมพ์
Amazfit GTS 4 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับคนรักการออกกำลังกายโดยแท้จริง ขณะเดียวกันก็มีความเป็นแฟชั่น เพราะมีโหมดกีฬามาแบบบิวท์ อินให้เลือกถึง 150 โหมด และความสามารถในการจดจำการเล่นกีฬาได้อย่างอัตโนมัติ ทั้งการเดิน, การวิ่ง, การปั่นจักรยาน, การว่ายน้ำ พร้อมกับระบบการจัดการสุขภาพตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย ซึ่งง่ายต่อการใช้งาน
อีกความโดดเด่นของ Amazfit GTS 4 คือระบบ BioTracker™ 4.0 PPG biometric ในแบบ 2 LED ที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูลการเต้นของหัวใจได้ดีขึ้นถึง 33% หากเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ที่ได้ลดข้อผิดพลาดน้อยลงจากการเคลื่อนไหวของข้อมือในระหว่างการออกกำลังและยังสามารถคำนวณหากร่างกายเริ่มขาดน้ำผ่านลำโพงเทคโนโลยีบลูทูธ
สรุปโดยภาพรวม สำหรับ Amazfit GTS 4 รุ่นล่าสุดนี้ กับฟีเจอร์ที่ให้มาเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักบริหาร ผู้ที่ชื่นชอบงานด้านกีฬา ความล้ำหน้าของเทคโนโลยี สามารถรองรับการบอกตำแหน่งผ่านระบบดาวเทียม 5 รุ่น และยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และมีฟีเจอร์จัดการสุขภาพได้แสนง่าย แบตเตอร์รี่ทนนาน ถือว่าคุณภาพเกินคุ้ม ในราคา 6,990 บาท
Amazfit GTS 4 วางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ Amazfit Official Store Shopee: Zepp Official Store Shopee: และ Dotlife / Banana / JIB / PowerBuy / B2S / IT City / N-Smart / Morefun และร้านสินค้า IT โซน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ https://www.amazfit.com/en/ และ Facebook, Instagram และ YouTube.